“ห้ามหักดิบ แต่ปรับลด” อันนี้คือเวิร์กมาก และจริงที่สุด เป็นเทคนิคที่เวิร์ก อัตราสำเร็จ 100% (วิจัย by ชั้น, n = 1) อย่างตอนแรกนี่ติดชานมไข่มุกมากกกกกก กินมันทุกร้าน ต่อมาเริ่มลดจากหวาน 100% เป็น 75 เป็น 50 แล้วอยู่ ๆ ก็ รู้สึกไม่อยากกินชานมไปเลย คือเหมือนแบบ พอลดไปสักพักนึงพอน้ำตาลมันน้อยไปก็รู้สึกมันไม่อร่อยละ แล้วก็แบบขาดก็ได้ ไม่กินก็เฉย ๆ ถ้าจะกินเลเวลที่มันอร่อยมันก็แบบ น้ำตาลเยอะจังวะ ก็เลยกลายเป็นไม่ได้กินไปซะดื้อ ๆ เลย 😂
สิ่งที้เราเลิกทำมาได้ประมาณครึ่งปีแล้ว แบบที่ตอนแรกไม่คิดว่าจะทำได้เหมือนกัน คนแบบเรานี่นะ 🥹
❌ กินอาหารไม่ปรุง
❌ กินก๋วยเตี๋ยวไม่ปรุง
❌ ไม่ซดน้ำซุป
❌ เลิกกินหมาล่าทัง
❌ ไม่กินไส้กรอก โบโลน่า พวกอัลตร้าโปรเซสฟู้ดหนักๆ
❌ ลดการกินมาม่า (กินแค่ตอนจำเป็น)
❌ ไม่เติมน้ำปลา/ซอสปรุงเยอะเกินในอาหารที่กิน/ทำเอง
❌ ไม่กินเผ็ดเกิน ไม่กินตอนดึก
❌ ไม่กินน้ำหวานในมื้ออาหาร
❌ กินน้ำหวานแค่ตอนจำเป็น (เช่น สังสรรค์กับเพื่อนแล้วเลี่ยงไม่ได้จริง)
หลังจากปรับการกินและรสชาติ ต่อมรับรสจะไวมาก แค่อาหารหวานนิดเดียว แทบไม่อยากกินต่อ/กินน้ำหวานไม่หมด/ไม่อยากหวาน/ไม่โหยหรือหิวดึก/ถ้าอาหารปรุงมารสจัดมากๆ จะกินต่อไม่ไหวเลย
ถามว่าเครียดไหม บอกเลยว่า ไม่เครียดแม้แต่นิดเดียว เพราะกินทุกอย่างเหมือนเดิมหมด ไม่งดขาด แต่เลี่ยง ลดเค็ม ลดปรุง ตอนไปกินข้าวกับเพื่อนก็เต็มที่ ไม่กดดัน กลับมากินเองก็กินแบบเดิม ซึ่งพอลองทำจริงๆมันง่ายกว่าที่คิดมากๆๆๆๆๆ แล้วเห็นผลไวมาก แบบร่างกายปฏิเสธพวกอาหารหวาน/ปรุงเยอะโดยอัติโนมัติ จากเคยหิวดึกทุกคืน กลายเป็นนอนได้แบบชิวๆ
เคล็ดลับคือ อย่าหักดิบ ให้ปรับลดแทน เวิร์ค